กาแฟอมก๋อย

กาแฟอมก๋อย

กาแฟอมก๋อย

รอบรู้เรื่องกาแฟ

กาแฟ เป็นไม้พุ่มยืนต้น ขนาดปานกลางสูง ประมาณ 3-4 เมตร ใบสีเขียวแตกออกจากข้อเป็นคู่ๆ ดอกออกตามข้อของกิ่งมีสีขาวบริสุทธิ์ กลิ่นหอม
อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ถือว่าเป็นดินแดน ที่เหมาะแก่การปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิก้า ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800 – 1,200 เมตร ดินมีความอุดมสมบูรณ์สูง สภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปี และมีปริมาณน้ำฝนที่พอเหมาะแก่การปลูกกาแฟ ซึ่งดินแดนแห่งนี้มีความพร้อมในการปลูกกาแฟอาราบิก้า

เมล็ดกาแฟมีลักษณะเป็นผลกลมรี ผลดิบจะมีสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็น สีแดงสดเหมือนลูกเชอรี่ ซึ่งจะเรียกผลที่สุกนี้ว่า "ผลเชอรี่" เมล็ดภายในของผลเชอรี่ส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายเมล็ดถั่วซึ่งจะแยกเป็น 2 ส่วนประกบกัน บางเมล็ดเท่านั้นที่มีลักษณะเป็นเมล็ดเดี่ยวซึ่งมีน้อยมาก กาแฟในโลกนี้มี หลากหลายพันธุ์ ปลูกได้ดีบริเวณแถบเส้นศูนย์สูตรของโลก

ผลเชอรี่
ผลเชอรี่

ขั้นตอนการผลิตกาแฟ

ขั้นตอนทำกาแฟกะลา :
กาแฟกะลา
กาแฟกะลา
  1. รับซื้อเมล็ดจากเกษตรกร โดยคัดเลือกเมล็ดที่ดี สมบูรณ์ ต้องมีลักษณะแดงเป็นลูกเชอร์รี่ ไม่ปนเขียวและแห้งดำ คัดเอาเมล็ดที่เสียออก
  2. ทำการแกะเปลือก ด้วยเครื่องปอกเปลือกภายใน 24 ชม. โดยใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย
  3. เมล็ดกาแฟที่ปอกเปลือกนอกออกแล้วจะมีเมือกห่อหุ้มเมล็ดอยู่ ซึ่งต้องกำจัดออกไปโดยวิธีการหมัก หรือแช่เมล็ดกาแฟในน้ำสะอาดไว้ประมาณ 2 -3 คืน เพื่อล้างเมือกออกแล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีก 1-2 ครั้ง
  4. นำเมล็ดกาแฟที่ผ่านการล้างทำความสะอาดแล้ว ไปตากให้แห้ง บนแคร่ไม้ไผ่ ปูด้วยตาข่ายพลาสติกที่ยกสูงจากพื้น ประมาณ 70 เซนติเมตร เกลี่ยเมล็ดกาแฟกระจายสม่ำเสมอไม่ควรหนาเกิน และต้องทำการพลิกฟื้นทุก 3 ชม. ใช้เวลาตากประมาณ 3-4 วัน จนแห้ง เมล็ดกาแฟจะต้องมีความชื้นไม่เกิน 13%
  5. การจัดเก็บเมล็ดกาแฟที่ผ่านการตากแห้งแล้ว ต้องนำเมล็ดกาแฟมาคัดสิ่งเจือปนออกให้หมด เก็บไว้ในรูปของกาแฟกะลา โดยบรรจุในกระสอบป่าน มีรูระบายอากาศได้ดี และควรกลับด้านในของกระสอบป่านออกมาผึ่งลม ก่อนนำมาใช้ และเก็บไว้ในโรงเก็บที่โล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้นหรือมีกลิ่นเหม็นสามารถเก็บได้นานถึง 2 ปี
กาแฟอมก๋อย
ห้องเก็บวัตถุดิบ
กาแฟอมก๋อย
ห้องบรรจุกาแฟ

หลังจากเสร็จสิ้นในขั้นตอนการปอกเลือก และคัดแยกเมล็ดกาแฟแล้ว
ก่อนจะมีกาแฟถ้วยหอม ๆ ยังมีขั้นตอน การคั่ว ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

ขั้นตอนการคั่ว :

หมายถึง การนำเมล็ดกาแฟดิบมาผ่านความร้อนหรือท่อไอน้ำร้อน ภายในถังคั่ว โดยใช้อุณหภูมิตั้งแต่ 120-300 องศาเซลเซียส ก่อนทำการคั่วเมล็ดกาแฟต้องนำมาเมล็ดกาแฟมาทำการคัดเลือกเมล็ดกาแฟโดยการสีกะลา โดยใช้เครื่องจักร สีและคัดแยก แบ่งเป็น 2 เกรดคือ A และ Y
เกรด A จะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 5.5 มิลลิเมตรและที่ต่ำกว่า 5.5 มิลลิเมตรถือว่าเป็น เกรดY

การคั่วเมล็ดกาแฟ ใช้เวลาในการคั่วประมาณ 10 – 20 นาที ต่อชุด มีการลดอุณหภูมิลง เมื่อกาแฟเปลี่ยนสีตรวจสอบเมล็ดบ่อยครั้ง เปรียบเทียบกับแถบสี เมื่อกาแฟคั่วได้ตามสีที่ต้องการ เปิดเทเมล็ดกาแฟออกจากเครื่องคั่ว โดยมีการไล่ความชื้นและความร้อนออกทันที โดยการเปิดพัดลมดูดอากาศ รอทันที การคั่วเมล็ดกาแฟ
โดยทั่วไปแล้วการคั่วเมล็ดกาแฟแบ่งเป็น 3 แบบ คือ

  1. การคั่วอ่อน (Light Roast) เป็นการคั่วแบบอ่อนที่สุด โดยเมล็ดกาแฟดิบจากสีขาวหรือเขียวอมเทา จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลปานกลาง และไม่มีน้ำมันเกาะติดเมล็ดกาแฟ การคั่วแบบนี้จะให้ความ เป็นกรดสูง และมีความเข้มน้อย
  2. การคั่วกลาง (Medium Roast) เป็นการคั่วเมล็ดกาแฟดิบจากสีขาวหรือเขียวอมเทา เป็นสีน้ำตาลที่เข้มขึ้น กว่าสีอบเชย โดยจะเห็นเมล็ดกาแฟมีลักษณะ เป็นผิวมันเหมือนผ้าแพร แต่ยังไม่มีน้ำมันเกาะติด
  3. การคั่วแบบเข้ม (Dark Roast) เป็นการคั่วแบบที่เข้มขึ้นโดยสีของเมล็ดกาแฟดิบจากสีขาวหรือเขียวอมเทา จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ จนถึงน้ำตาลดำ เมล็ดกาแฟจะมีน้ำมันเกาะติด ตั้งแต่ค่อนเมล็ดกาแฟจนถึงทั่ว เมล็ดกาแฟอุณหภูมิที่ใช้ 250-300 องศาเซลเซียส

วิธีการเก็บรักษาคุณภาพของกาแฟ

ควรเก็บเมล็ดกาแฟที่คั่วแล้ว ใส่ถุงอลูมิเนียม เพราะสามารถป้องกันแสงแดดและความชื้นได้เป็นอย่างดี เพราะแสงแดดและความชื้นในอากาศเป็นตัวการทำให้กาแฟมีรสชาติ ที่เปลี่ยนไป และควรไล่อากาศออกให้ได้มากที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศ อยู่ในถุง ปิดปากถุงให้สนิทโดยใช้เครื่องหนีบถุง

กาแฟอมก๋อย
-